2/5/56

คุณกำลัง รอ feedback จากลูกค้าอยู่ ใช่ไหมล่ะ….เอิ๊กๆๆๆ

 

ศาลินเชื่อว่า หลายคนที่ขายของได้ในช่วงแรกๆ  จะต้อง เกิดอาการ ดีใจ ตื่นเต้น คาดหวัง เฝ้ารอ ผิดหวัง  งง  มึน ไม่เข้าใจ หงุดหงิด เซ็ง ปลง ทำใจ แน่ๆค่ะ เกี่ยวกับ การรอ Feedback จากลูกค้า …  emo007ในตอนที่ ศาลิน ขายสินค้าได้ชิ้นแรก  จำได้ว่า ตอนนั้น ดีใจมาก แทบจะรีบ ให้ feedback ลูกค้า เดี๋ยวนั้นซะเลยด้วยซ้ำ   ไม่เชื่อเหรอ ??? … ไม่เชื่อ ลองอ่านความรู้สึกวันนั้นดูสิ   “ว่าด้วยเรื่อง feedback ใน etsy”   วันนี้ กลับไปนั่งย้อนอ่านแล้วอยากจะขำ … อ่านแล้ว นึกถึงเพื่อน ที่เคยบอกเรา  ว่า ตัดปัญหา ไม่เคยใส่ใจให้ feedback ลูกค้าสักคน  … ตอนนั้น แอบคิดว่า ทำไมเพื่อนทำแบบนี้ ไม่ดีเลยแฮะ …. แต่วันนี้ รู้ซึ้งแล้วค่ะ  พอมานั่งคิด มันก็จริงอย่างที่เพื่อนบอกแฮะ  ที่บอกว่า ศาลิน จะไว้เชิง อย่าเพิ่งให้ feedback ลูกค้า รอคุณลูกค้า ให้ feedback มาก่อนเราถึงจะให้บ้าง … ศาลิน ไม่ได้ทำหรอกค่ะ อดใจไม่ไหว มันตื่นเต้น อยากรู้อยากเห็น  ก็เลยรีบให้ feedback เขาไปเลย หลังจากส่งของเสร็จได้ สองสามวัน เอง ของยังไม่ทันข้ามประเทศเลยด้วยซ้ำ …    ด้วยหวังว่า เราให้เขาไปแล้ว เขาน่าจะให้เรากลับมาบ้าง หลังจากที่ได้รับสินค้าจากเรา  …. จากวันนั้น จนวันนี้ ผ่านมาหนึ่งปีแล้ว   ศาลินยังไม่ได้ feedback จากลูกค้าผู้น่ารักที่ซื้อของคนแรกคนนั้นเลยค่ะ  อิอิ

ขายของได้ ชิ้นที่ 2  , 3 , 4  ศาลิน ก็ รอ ร้อ รอ…. เมื่อไหร่เราจะได้ feedback หนออออออ… รอจนบางที รอไม่ไหว เลยกด ให้ลูกค้าก่อนประจำค่ะ ด้วยความหวังเดิม คือ เผื่อลูกค้าเห็นจะได้ให้เรากลับมาบ้าง …..  ก็รอไปเรื่อยๆค่ะ   จน ขายได้ ชิ้นที่ 10, 11 ,12 ก็ยังไม่ได้ feedback กลับมาสักคน …. 555555 … จากนั้นมา ศาลิน ก็เริ่ม ทำใจได้แล้วค่ะ เกี่ยวกับ feedback จากลูกค้า  … ไม่มีการ รอ และ ไม่มีการ ให้ อีกต่อไป เอิ๊กๆๆๆ 

จนวันหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้ … do002หลังจากขายของไปได้ ชิ้นที่ 19 ใช้เวลา 1 ปี (ของศาลินอาจจะดูนานหน่อยนะคะ กว่าจะขายได้ ซึ่ง บางร้านบางคน หนึ่งปี ขายได้ เป็น 100 ชิ้นก็มีเยอะแยะค่ะ) … วันนั้น มีการแจ้งเตือน … เข้ามา ว่า    “Read Feedback”  … อู้หู… แทบกรี๊ดดด!!!  กำลังจง กำลังใจ มาเต็มเปี่ยมเลยค่ะ  เหมือนได้ยาวิเศษจาก etsy  มีเรี่ยว มีแรง ขึ้นมาทันที   กดเข้าไปดู    อ้าว … นี่ เราได้ feedback เป็นครั้งที่ 2 แล้วนี่นา … ครั้งแรก มาเมื่อชาติไหนนี่   (แอบคิดในใจ ฮี่ๆๆๆ)   มีกรี๊ด กร๊าด เล็กๆ ที่รู้ว่า แจ้งเตือนครั้งนี้ เป็น feedback ครั้งที่ 2   แถม ยิ่งปลื้มขึ้นไปอีก ที่ลูกค้า เขียน“ชม”มาซะยาวเลย …. เหมือนได้ ยาดี อย่างบอกไม่ถูก …. แม้จะเป็น feedback แค่ครั้งที่ 2 ก็ตาม

 Read Feedback Etsy

 

ดูสิๆ  เค้าได้ feedback    2 ครั้งแล้วนะ …. มันขึ้นโชว์อยู่ที่หน้าร้าน … เป็น 2 ครั้ง ที่ตอนนี้ รู้สึกภูมิใจ๊ ภูมิใจ มากเลยค่ะ สำหรับคนขายของได้เรื่อยๆอย่างเรา อิอิ … คนที่ขายดีๆ ก็อาจจะ รู้สึกชินแล้ว แต่เราไม่ใช่ ..  ก็เลย ขออวด ขอภูมิใจ นิสสสสส นึง นะคะ … ^^

f002

 

ชอบ feedback ของคนที่สองมาก เขียนมา ซะเยอะเลย    ในช่วงแรกๆ เขาก็ ติ เรื่องสินค้าเล็กน้อยค่ะ พอดี ว่า สินค้ามีความผิดพลาดนิดหน่อย  แต่ สุดท้าย เขาก็ ประทับใจ  ที่ศาลิน บริการดี เวลาที่เขาติดต่อ สอบถามมา และ ประทับใจอีกอย่างคือ ตอนส่งของ ศาลิน แอบใส่ พวงกุญแจเล็กๆ ของเมืองไทย ลงไปในซองด้วยค่ะ  ตอนนั้น ที่ใส่พวงกุญแจไป ศาลินไม่ได้คิดอะไรเลยค่ะ  ศาลินเห็นว่า เราเก็บไว้ไม่ได้ใช้ ก็ เลยใส่ซองให้ลูกค้าไป คิดไม่ถึงว่า ... จะทำให้ลูกค้าประทับใจได้ขนาดนี้ค่ะ …  จากนี้ไป ศาลินก็เลยตั้งใจว่า จะหา ของแถม เล็กๆ น้อยๆ ที่แสดงถึงความเป็นไทย ส่งเป็นของแถมไปให้กับลูกค้าด้วยค่ะ  เทคนิคนี้ เพื่อนๆจะนำไปใช้บ้าง ก็ได้นะคะ  ไม่ว่ากัน ^^

f003

เอาละ เรามา บ่น เรื่อง feedback กันต่อค่ะ …. ศาลิน เคย ซื้อของ จาก Ebay ก็หลายครั้ง และ มีหลายครั้ง ที่ ศาลิน ไม่อยากให้ feedback ผู้ขาย  เพราะไม่ปลื้ม …เชื่อไหม  ว่า Ebay มีระบบ ส่งข้อความ มาตามเรา ให้เรา ไปให้ feedback ผู้ขายด้วย …..  ด้วยความ หมั่นไส้ ผู้ขาย ศาลินเลยแกล้ง ให้ Negative ไปค่ะ …  เชื่ออีกไหมคะว่า … Ebay มีระบบ ให้ผู้ขาย ส่งข้อความ มาหาเราอีกประมาณว่า ….. “ขอโทษครับ คุณให้ feedback กับทางร้านค้าผิดหรือเปล่า?????”  ประมาณว่า ไม่เชื่อมั่นเราซะอย่างนั้น  คิดว่าเรา กดผิดซะอย่างนั้น ….. นั่น!!! ดูเอาละกัน  ช่างผิดกับ Etsy ซะจริงๆ  อย่าว่าแต่ Etsy เลย  Bonanza ก็ไม่มีระบบนี้  ….  นี่ถ้า Etsy หรือ Bonanza  ทำได้ !!! นะ รักตายเลย …

สำหรับใครที่ยังไม่เคยได้ feedback เลย หรือ เพิ่งจะได้ feedback น้อยครั้ง catsๅๅเมื่อเทียบกับจำนวนที่ขายไป ก็ ทำใจนะคะ  ลองไปหาดูของร้านอื่นๆก็ได้ค่ะ  แล้วคุณจะมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ  ดูอย่าง ร้านในรูปข้างๆ สิคะ … บางร้าน ขายได้ เกือบพันรายการ แต่ได้ feedback ไม่กี่ร้อย ก็มีเยอะแยะไปค่ะ …. เทียบเป็นสัดส่วนแล้ว ได้ feedback ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ของรายการที่ขายได้  ก็เยอะแยะ  บางร้าน ได้ 10 %  บางร้านได้  20%   แต่ถ้าร้านไหน ได้  50% ขึ้นไปนี่ จัดว่า น่าอิจฉาสุดๆ อิอิ   

สาเหตุที่ศาลิน เขียนเรื่องนี้ ขึ้นมา ก็ เพื่อ อยากจะบอก นักขายทุกท่านว่า เมื่อขายได้ ก็ ทำใจเผื่อไว้บ้างนะคะ ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องได้รับ feedback จากลูกค้าซะทุกครั้งไป เหมือนใน Ebay …. ที่ผ่านมา มีหลายๆคน ส่งข้อความมาถาม ศาลิน เรื่อยเลยค่ะว่า  : ทำอย่างไรดี ลูกค้าไม่ให้ feedback  , ทำอย่างไรจะให้ลูกค้ามาให้  feedback เราได้คะ ,หรือ คุณศาลินได้ feedback จากลูกค้าบ้างไหมคะ  …… เอาเป็นว่า คราวนี้ รู้กันแล้วนะคะ ว่า … เราบังคับ ลูกค้าไม่ได้ และ รู้แล้วนะคะ ว่า ศาลิน ก็ได้ feedback ไม่เยอะเหมือนกัน เลยไม่สามารถที่จะ แนะนำอะไรได้มาก 55555555

แต่ถ้าใครกล้า ที่จะทำ แบบ Ebay ก็ลองดูนะคะ   คือทำการ ส่งข้อความส่วนตัวไปเตือนลูกค้า ขอ feedback จากลูกค้า เองเลย ไม่ง้อให้ Etsy พัฒนาระบบแล้ว …. นี่อาจจะเป็นวิธีการหนึ่ง ที่ทำให้คุณได้ รับ feedback จากลูกค้ามากขึ้นก็ได้ค่ะ …
สำหรับวันนี้ …. ศาลิน ขอตัว ไปพักผ่อนก่อนค่ะ เรื่อง feedback จบซะที หลังจากที่ตั้งใจจะเขียนมาสองอาทิตย์แล้ว ^^

สุดท้าย ขอให้ ทุกๆท่าน ประสบความสำเร็จกับการขายของให้ฝรั่งนะคะ .. สู้ๆ   .. อ่านเสร็จแล้ว กดลิงค์ผู้สนับสนุน ให้ศาลินบ้างนะคะ เพื่อเป็นกำลังใจให้ศาลินอีกทางหนึ่ง   bye ค่ะ

t21

 

สาธุสวัสดี

ศาลิน

29/3/56

ผ่อนรถหมดแล้ว โอนรถเอง ง่ายนิดเดียว แถมประหยัดเงิน

 

หลายๆ คน คงรอ ถึงวัน เป็นไท …จาก ค่าผ่อนรถ  เหมือน เพื่อนสนิทของศาลิน 

และคงมีหลายๆ คน ที่ คิดว่า   เราคงต้องเตรียมเงินค่าโอนรถ อีกอย่างน้อย 2 – 3 พัน เพื่อจ่ายให้ไฟแนนซ์ ทำเรื่องโอนรถ แน่ๆ  เหมือน เพื่อนของศาลิน   ที่นั่งหน้าเศร้า มาหลายวัน พอถามว่า เป็นอะไร  ก็ได้คำตอบว่า …. “ ผ่อนรถหมดแล้ว ยังไม่มีค่าโอนรถเลย  ต้องหาเงินค่าโอนอีก ”   คุยไปคุยมา  สรุปว่า ทาง ไฟแนนซ์  เรียกมา 2000 บาท ค่ะ เป็นของ นิสสันลิสซิ่ง … ศาลิน เลย บอกว่า   เดี๋ยวจัดการทำเรื่องโอนให้ แล้วเอา 2000 บาทนั้นมาให้ฉัน อิอิ  

เมื่อดูเอกสาร   ทางไฟแนนซ์ แจ้งมาแบบนี้ค่ะ   

-ให้บริษัท ดำเนินการโอนเล่มทะเบียน     2000 บาท

-หรือขอให้บริษัท จัดส่งให้ท่านไปดำเนินการเอง 300 บาท  

2013-03-24 14.02.35 

ศาลิน เลยบอกให้เพื่อน แจ้งไฟแนนซ์ไปว่า จะโอนเอง ค่ะ แล้วจ่ายให้ ไฟแนนซ์ไป 300 บาท เพื่อให้ บริษัท จัดส่งเอกสารมาให้

 

เมื่อ เอกสาร มาพร้อม เรียบร้อยแล้ว  จึงจัดการ กรอกข้อมูล และ เซ็นต์ชื่อ ให้ครบค่ะ

สิ่งที่บริษัทไฟแนนซ์ ส่งมาให้จะประกอบไปด้วย  

1.  ใบคำขอโอนและรับโอน

2.  เอกสารหรือใบเสร็จแสดงการชำระเงินครบถ้วนแล้วจากทางไฟแนนซ์ (จะมีหลายใบหน่อย)   รวมถึง สำเนาบัตรประชาชน ของทางไฟแนนซ์ ด้วย

3.  หนังสือมอบอำนาจจากทางไฟแนนซ์  ให้เจ้าของรถไปทำการโอน

4. สำเนาบัตรประชาชนของผู้รับโอน (เจ้าของรถ)

5. สำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้รับโอน (เจ้าของรถ)

สำหรับเอกสารใน ข้อ 4 และ 5   ทางบริษัท จะให้เราส่งเอกสารไปให้ก่อน เพื่อจัดทำเอกสารชุดโอน แล้วส่งกลับมาให้เรา อีกทีค่ะ

กรณีนี้  ศาลินเป็นผู้ไปดำเนินการแทนเจ้าของรถ จึงจำเป็น จะต้องมีการมอบอำนาจให้ศาลิน เพิ่ม    ต้องใช้ใบมอบอำนาจเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งใบ  รวมเป็น 2 ใบ คือ

- มอบอำนาจ ฉบับแรก  เป็นการ มอบอำนาจ จาก ไฟแนนซ์  ให้ ศาลิน (ไฟแนนซ์ส่งมาให้แล้ว)

- มอบอำนาจ ฉบับที่สอง เป็นการ มอบอำนาจ จากเพื่อน ให้ ศาลิน   ( หามาเพิ่มเติมเอง)

 

เมื่อ เอกสารครบ  ก็ เดินทางไปยังขนส่ง ที่ไฟแนนซ์ กำหนดมาค่ะ      ไฟแนนซ์ กำหนดขนส่งเขตพื้นที่ไหนมา ก็ต้องไปที่เขตพื้นที่นั้นนะคะ ไปพื้นที่อื่นไม่ได้ค่ะ  ในกรณีนี้  ไฟแนนซ์กำหนดให้ไปดำเนินการ ที่ ขนส่ง สุขุมวิท 62 ค่ะ   

ศาลิน เลือกไป วัน พฤหัสบดี  … ช่วงเช้า …  คิดว่าคนจะน้อยกว่าวันจันทร์ และ วันศุกร์  เมื่อไปถึง คนก็ น้อยจริงๆค่ะ

ศาลิน ขับรถของเพื่อน คันที่จะทำการโอนมาด้วย   เพราะคิดว่า ต้องตรวจสภาพรถ  เมื่อ มาถึง ขนส่ง   ก็ ขับตรงเข้าไป จนสุดทางเลย  เจอ ป้าย “ตรวจสภาพรถ”   ก็ ขับรถเข้าไปรอตรวจก่อนเลยค่ะ  (มาถึง ยังไม่ต้องจอด ให้มาตรวจสภาพรถ เอาเอกสารก่อน)

พอถึงคิวตรวจ  ยื่นเอกสารการโอน ที่นำมาด้วย ให้เจ้าหน้าที่ดู …. เจ้าหน้าที่ตรวจเรียบร้อย แล้วถามว่า “นี่เป็นรถใหม่เพิ่งผ่อนหมดใช่ไหม”    … ใช่ค่ะ

จึงทราบว่า     สำหรับ รถใหม่ ที่ซื้อมาแล้วผ่อนจนหมด   ไม่จำเป็นต้อง เสียค่าน้ำมันรถ นำรถมาตรวจสภาพ ถึงขนส่งค่ะ  คุณสามารถไปรถเมล์ รถแท็กซี่ หรือ รถอะไรก็ได้ อิอิ  ซึ่งถ้ารู้แต่แรก ศาลินคงนั่งรถเมล์มาค่ะ   เพราะ บ้านศาลินอยู่ใกล้ๆ  ก็แค่ไปเอาเอกสารมา  แต่รถของเพื่อนอยู่ถึงราชพฤกษ์  ขับไปขับมา สรุป มาวันนี้ หมดค่าน้ำมันไปกลับ เกือบห้าร้อย จากที่ว่าจะประหยัดๆ  อิอิ  

แต่สำหรับ รถ ในกรณีอื่น   ที่ไม่ใช่ รถใหม่ ผ่อนหมด  ก็ ต้อง ตรวจสภาพ ตามปกตินะคะ ก่อนจะขึ้นไปดำเนินการ ในตัวอาคาร

เมื่อผ่านขั้นตอน การตรวจสภาพมาแล้ว … ศาลิน มาหาที่จอดรถ ค่ะ  ซึ่งก็ยังพอมีว่างอยู่บ้าง  แต่ถ้ามา วันจันทร์ กับ วันศุกร์ คงจะแน่นกว่านี้นะ( ศาลินคิดในใจ)  จอดรถเสร็จแล้ว ขึ้นไป ชั้น 2 ค่ะ

ก่อนขึ้น ชั้น 2  เรา ให้ ประชาสัมพันธ์ ที่อยู่ด้านหน้าประตู บริเวณชั้น 1 ตรวจสอบเอกสารกันหน่อยดีกว่า ว่า  ครบถ้วน ถูกต้องไหม  พร้อมกับ สอบถามด้วยว่า  

“ เจ้าของรถ มีทะเบียนบ้านอยู่ต่างจังหวัด จะต้องทำอย่างไร ใช้เอกสารอะไรเพิ่มเติมไหม ”

เจ้าหน้าที่ใจดีค่ะ พูดจาดี   ให้เอกสาร มาให้ศาลิน กรอกเพิ่มค่ะ  เป็น เอกสาร “แบบคำขออื่นๆ ”  ที่เขาปั๊มตรายางมาเรียบร้อยแล้ว   ให้เรากรอกข้อมูล อย่างเดียวค่ะ

แบบคำขออื่นๆ โอนรถ

 

สรุป เอกสาร ในการเดินเรื่อง โอนรถใหม่ ทั้งหมด ครั้งนี้ ประกอบไปด้วย

1. ใบคำขอโอนและรับโอน

2. เอกสารหรือใบเสร็จแสดงการชำระเงินครบถ้วนแล้วจากทางไฟแนนซ์ (จะมีหลายใบหน่อย) รวมถึง สำเนาบัตรประชาชน ของทางไฟแนนซ์ ด้วย

3. หนังสือมอบอำนาจจากทางไฟแนนซ์  ให้ ผู้รับโอน (เจ้าของรถ)  หรือ ผู้ดำเนินการ

4. สำเนาบัตรประชาชนของผู้รับโอน (เจ้าของรถ)

5. สำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้รับโอน (เจ้าของรถ)   

6. หนังสือมอบอำนาจจากทางผู้รับโอน (เจ้าของรถ)   ให้ ผู้ดำเนินการ

7. สำเนาบัตรประชาชน ของผู้ดำเนินการ

8. แบบคำขออื่นๆ  ( กรณี ผู้รับโอน (เจ้าของรถ) มีภูมิลำเนา อยู่ต่างจังหวัด แต่ประสงค์จะใช้ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร )

ในกรณีที่ เจ้าของรถไปดำเนินการเอง   เอกสารข้อ 6-7 ไม่ต้องใช้นะคะ หวังว่า คงเข้าใจกันเน้อ

เมื่อเอกสารพร้อมแล้ว   ขึ้นไปที่ชั้น 2 ค่ะ   ช่องสำหรับเรื่องการโอนรถ จะ อยู่ที่ ช่อง 1- 4  ของขนส่งนี้   ที่เคาน์เตอร์ จะมี ตะกร้า วางอยู่ ให้เรา นำเอกสารทั้งหมด ใส่ลงในตะกร้า แล้วรอเจ้าหน้าที่เรียก  ตาม เลขทะเบียนรถ ค่ะ

 

โอนรถ ขนส่ง สุขุมวิท

 

รอบแรก เจ้าหน้าที่   จะเรียก  ให้เราไปชำระเงินค่ะ   รอบนี้ ศาลิน จ่ายไปทั้งหมด  330 บาท

- ค่าโอนรถ  100 บาท

- ค่าปรับ โอนล่าช้า เกิน 15 วัน   200 บาท 

- ค่าคำขอ   10  บาท

- ค่าธรรมเนียมอื่นๆ   20  บาท

  ใบเสร็จค่าโอนรถ

 

จ่ายเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จะให้ บัตรคิว มานั่งรอสมุด ค่ะ

บัตรคิวโอนรถ

ขั้นตอนการโอนรถที่ชั้นสองนี้   ศาลิน จับเวลาไว้ ….  ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงค่ะ สำหรับวันว่างๆ สบายๆ อย่างวันพฤหัสบดีนี้ ….

ส่วน ระยะเวลาทั้งหมด ตั้งแต่มาที่ขนส่ง จนเสร็จธุระ ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงครึ่งค่ะ ถ้าไม่ติดตรงที่ไปรถตรวจสภาพรถ ก็คงใช้เวลาไม่เกิน ชั่วโมง ค่ะ

เห็นไหมคะ  สะดวก และ ง่าย นิดเดียวเอง  ประหยัดด้วยค่ะ  นี่ถ้า ศาลินรู้ว่า รถใหม่ ไม่ต้องนำรถมาตรวจสภาพด้วย   และ เจ้าเพื่อนตัวดี ไม่ปล่อยให้เวลาเนิ่นนานมาจนเลย ระยะเวลาการโอน  (ภายใน 15วัน หลังจากผ่อนหมด)    ก็คงจะประหยัดไปได้มากกว่านี้อีกค่ะ

สรุปว่า ถ้า ไม่โดนค่าปรับ และ ไม่รวมค่าน้ำมันรถ …  จากที่ต้องจ่าย 2000 บาท    ก็จ่ายเพียงแค่  430 บาท  เองค่ะ  ประหยัดใช่ไหมล่ะ  ลองดูกันนะคะ ลองเดินเรื่องกันเองบ้าง สำหรับ ท่านที่มีเวลาว่าง หรือ มีคนที่สามารถทำแทนให้ได้  

 

 

สำหรับ  เอกสาร แบบคำขอต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการ โอนรถ ท่านสามารถเข้าไป DOWNLOAD  ได้ที่ลิงค์ เลยนะคะ  โดยเลือกดูในส่วนของ “งานทะเบียนรถยนต์”

 

ตัวอย่างการกรอกเอกสาร

กรอก แบบคำขอโอนรถแบบคำขอโอนและรับโอน

 

 

หนังสือมอบอำนาจโอนรถ

หนังสือมอบอำนาจจากทางไฟแนนซ์ ให้ ผู้รับโอน (เจ้าของรถ) หรือ ผู้ดำเนินการ

 

 

หนังสือมอบอำนาจโอนรถ

หนังสือมอบอำนาจจากทางผู้รับโอน (เจ้าของรถ) ให้ ผู้ดำเนินการ

 

 

แบบคำขออื่นๆ โอนรถ

แบบคำขออื่นๆ

แอบเพิ่มเติมนิดนึงนะคะ  สำหรับ การกรอก แบบคำขออื่นๆ …  ลองดูค่ะ ว่าคุณอยู่ในเขตไหน และสะดวกไปใช้บริการที่เขตไหน ตามรายการด้านล่างนี้  จะได้กรอกข้อมูลถูกนะคะ

สำหรับเจ้าของรถ หรือ เจ้าของกรรมสิทธิ์ มีทะเบียนบ้านอยู่ต่างจังหวัด แต่ใช้รถยนต์ทะเบียน กรุงเทพ  ต้องการทำเรื่องขอใช้ป้ายทะเบียนในกรุงเทพ ต้องเลือกว่า จะใช้ในเขตใดตามรายการต้านล่างนี้


สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1
1005 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150
โทร. 0-2415-7337
รับผิดชอบในเขตพื้นที่
เขตบางขุนเทียน บางคอแหลม จอมทอง ธนบุรี ราษฎร์บูรณะ คลองสาน สาทร ทุ่งครุ บางบอน และยานนาวา


สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2
51 ถนนสวนผัก แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170   โทร. 0-2882-1620-35
รับผิดชอบในเขตพื้นที่
เขตตลิ่งชัน บางพลัด บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ ภาษีเจริญ หนองแขม พระนคร บางแค และ ทวีวัฒนา


สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 3
ตรงข้ามซอยสุขุมวิท 62/1 2479 ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ 10260   โทร. 0-2332-9688-91
รับผิดชอบในเขตพื้นที่
เขตพระโขนง ประเวศ สวนหลวง คลองเตย บางนา วัฒนา และบางจาก


สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 4
34 หมู่ 6 ถนนร่วมพัฒนา แขวงลำต้อยติ่ง เขตหนองจอก กรุงเทพฯ 10530
โทร. 0-2543-5500-2
รับผิดชอบในเขตพื้นที่
เขตมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง บึงกุ่ม สะพานสูง คันนายาว และคลองสามวา


กรณีไม่ได้ระบุว่าขอใช้ป้ายในเขตอื่น หรือจังหวัดอื่น ให้ดูตาม เขตหรือ จังหวัดในหน้าผู้ครองครอง คนสุดท้ายได้เลยค่ะ


ของต่างจังหวัด ดูข้อมูลได้ที่  สำนักงานขนส่งจังหวัด/เขตพื้นที่   เลยค่ะ 

สุดท้าย  อย่าลืมนะคะ  ในการ เซ็นสำเนาบัตรประชาชน ให้เซ็นรับรองว่า "ใช้สำหรับโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ทะเบียน..............."  ด้วยค่ะ  เพื่อความปลอดภัย

23/3/56

ลงรายการสินค้าอย่างไรให้ลูกค้าสนใจ

 

• สิ่งที่ยากที่สุดเกี่ยวกับการขายของบนอินเทอร์เน็ต นั่นก็คือ การที่ลูกค้าที่มีศักยภาพในการซื้อของคุณ ไม่สามารถเข้าถึงสินค้าของคุณได้  หรือ หาสินค้าของคุณไม่พบ - รวมถึง คำอธิบายสินค้า รายละเอียดสินค้า ที่น้อยเกินไป ไม่เป็นที่ดึงดูด ด้วย

• ลองนึกภาพดูว่า  หากคุณกำลังจะซื้อ สินค้าอะไรสักอย่าง ที่คุณไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลย  -  คุณอยากจะรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับสินค้านั้นๆ คุณอยากได้ข้อมูลอะไรบ้าง เวลาที่คุณจะตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าชิ้นหนึ่ง

การตั้งชื่อสินค้า - การใช้คำหรือเพิ่มคำลงไปในชื่อสินค้าของคุณ เพื่ออธิบายลักษณะสินค้าเพิ่มเติม เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ลูกค้านึกภาพหรือจินตนาการสินค้าของคุณออกได้มากขึ้น เช่น  แทนที่คุณจะ ใส่ชื่อ สินค้าเพียงสั้นๆ ว่า “green shirt”  ลูกค้า ก็ คงจะคิดแค่ว่า อืม .. เสื้อสีเขียว แล้วไงล่ะ?  หากลูกค้าของคุณกำลังมองหาเสื้อสีเขียวอยู่แล้ว แต่ว่า เวลา search เสื้อสีเขียว  ผลลัพธ์มีขึ้นมามากมาย นั้นก็ green shirt นี้ ก็ green shirt  ไม่รู้จะคลิ๊กดูอันไหนดี ข้ามๆไปบ้างดีกว่า  แต่ถ้า คุณ ใส่คำว่า   “mickey mouse in lime green  rayon shirt”  ลูกค้า อ่านแล้ว รู้ทันทีเลยว่า  เสื้อตัวนี้ ลาย มิกกี้เมาส์  สีเขียวมะนาว เป็นผ้าเรยอน  ถ้าเขาสนใจ สินค้าของคุณชิ้นนี้ก็จะได้เปรียบสินค้าชิ้นอื่นๆ แล้ว   อีกอย่างหนึ่งคือ คุณ จะได้เปรียบในส่วนของคำที่ลูกค้าใช้ในการ search หา ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย search ว่า mickey mouse shirt ก็เจอ  rayon shirt ก็เจอ lemon shirt หรือ  green shirt ก็เจอ

 

การตัั้งชื่อสินค้า

 

รูปสินค้า  รูปสินค้าเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะเป็นส่วนช่วยให้ลูกค้าของคุณตัดสินใจได้ดีขึ้น การถ่ายภาพรูปสินค้าให้สวยๆ ให้เห็นองค์ประกอบของสินค้าได้มากที่สุดเป็นสิ่งสำคัญ  อย่าลืมว่า รูปสวยมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น  “รูปสินค้าไม่ควรแตกต่างไปจากสินค้าจริง”

004                004-1

 

• ควรใส่ tags คำสำหรับค้นหา ทุกครั้ง  ให้ครบหรือให้มากที่สุด หากในแบบฟอร์มนั้นมีมาให้ การใส่ tags จะช่วยทำให้ ลูกค้าพบสินค้าของคุณได้ในหน้าค้นหา หลักในการค้นหาคำที่จะนำมาเป็น tags ง่ายๆไม่ได้ยุ่งยากจนเกินไป เพียงแค่ หาคำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณให้มากที่สุด เช่น สีของสินค้า,  สินค้านี้สำหรับใคร(กลุ่มเป้าหมาย), วิธีการผลิต หรือวิธีการทำสินค้า, ขนาดสินค้า , สไตล์ของสินค้า , วัสดุหลักที่ใช้ทำ, รูปแบบหรือลวดลายของสินค้า   เป็นต้น   นอกจากนี้ บางครั้ง ควรให้ความสำคัญกับ คำพ้องเสียง ( synonyms ) ด้วย ลูกค้าบางคนอาจพิมพ์ผิด  หากคุณใส่ไว้ ในขณะที่คนอื่นๆไม่ได้ใส่ หรือนึกไม่ถึง โอกาสก็จะเป็นของคุณ

การใส่ tags

• มีการแจ้งรับประกันการคืนเงินให้ลูกค้า หากสินค้าไม่เป็นที่พอใจของลูกค้า  ในภาพดูสวยดูดี แต่ของจริงไม่สวยอย่างที่ลูกค้าหวัง  การรับประกันส่วนนี้จะมีผลทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจในสินค้า มั่นใจในร้านของคุณ กล้าที่จะสั่งสินค้า เพิ่มยอดขายให้กับร้านของคุณได้

• ควรใส่ข้อเสนอแนะ หรือ วิธีการใช้สินค้า ประกอบไว้ด้วย ให้มากที่สุด เช่น  ควรซักเสื้อนี้ด้วยน้ำอุ่น อุณหภูมิไม่เกิน 39 องศาเซลเซียส เป็นต้น

• สำหรับการขายสินค้าแฮนด์เมด จุดเด่น ของสินค้าพวกนี้ อยู่ที่ สินค้าจะมีความเป็นเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำใคร  เป็นงานไอเดีย  หากเป็นไปได้ ให้คุณบอกเล่าเรื่องราว เบื้องหลังผลิตภัณฑ์ของคุณ  - แรงบันดาลใจต่างๆกับการสร้างสรรค์สินค้านั้นๆขึ้นมา  เป็นส่วนหนึ่งที่ สามารถทำให้ลูกค้าประทับใจกับสินค้าของคุณได้

• เหนือสิ่งอื่นใดที่คุณควรมี และควรใส่อยู่ในทุกๆรายการสินค้า คือ “ความซื่อสัตย์”

 

เส้นคั่น

สาธุ สวัสดี

ศาลิน

 

tags : ลงสินค้า etsy, listing etsy, esty, etsy, รายการสินค้า Etsy, ลงรายการสินค้า, วิธีลงสินค้า, ขายของทาง internet, ขายของทางอินเตอร์เน็ต,ขายของต่างประเทศ ฟรี

14/3/56

สมัครขายของ กับ Bonanza ตอนที่ 1

วันนี้เรามารู้จักกับ เว็บ ขายสินค้า ที่ ลงประกาศขายได้ เหมือน ๆกับ อีเบย์ แต่ ค่าธรรมเนียมต่ำ กันดีกว่า ด้วยเว็บตลาดออนไลน์ จาก อเมริกา นั่นคือ .... Bonanza : Fine everything but the ordinary ..... โบนันซ่า หรูเริ่ด ในราคาธรรมด๊า ธรรมดา

ที่นี่ หากสินค้าของคุณ เป็นสินค้าจำพวก แฟชั่น หะรูหะรา....หรูหรา .... แต่ราคาถูก .... เหมาะมากเลยฮ่ะ ... บางที มนุษย์เราก็ มีอารมณ์ อยากเป็น ไฮโซ กันบ้าง ใช่ไหมล่ะฮ้า .. แต่ไม่จำเป็นต้องเสียเงินแพงๆ แค่อะไรก็ได้ ที่ดู เริ่ด หรู แบบราคาประหยัดๆ แค่นี้ก็ โอแล้วล่ะคร่า ...

เอาละค่ะ เวิ่นเว้อมาก .. มา สมัครกันเลยดีกว่า ก่อนอื่น เข้าเว็บ bonanza ค่ะ

bo000

แล้ว กด เมนู register บนสุดด้านขวา เพื่อ ลงทะเบียนเป็นสมาชิกของ bonanza

bo001

เมื่อเข้ามาแล้ว จะเจอ กับหน้าตาแบบนี้ ให้ กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน นะคะ แล้ว กด Create Account หรือว่า หากใครมี เฟสบุค หรือ บัญชี กูเกิ้ล อยากจะเชื่อมบัญชี bonanza เข้าด้วยกันกับเฟสบุค หรือ กูเกิ้ล ก็ กด ที่ปุ่ม ทางด้านขวานะคะ .. เลือกเอาค่ะ

bo002

ถ้าคุณ กด เชื่อมต่อกับบัญชี เฟซบุค ก็จะได้ หน้าตาแบบนี้ค่ะ

bo004

หรือถ้า กด เชื่อมต่อกับ บัญชี กูเกิ้ล ก็จะได้หน้าตาแบบนี้

bo005

เมื่อคุณ กด Create Account แล้ว bonanza จะส่ง อีเมล์ ไปที่ เมล์ที่คุณทำการสมัครค่ะ ให้คุณ เข้าไป เช็คกล่องข้อความในอีเมล์ของคุณนะคะ เพื่อทำการ กดลิงค์ activate

bo003

ในกล่องข้อความของคุณ คุณจะได้รับ อีเมล์ หน้าตาแบบนี้ ค่ะ ให้คุณกดที่ลิงค์ ในอีเมล์ได้เลย

bo006

จากนั้น ให้คุณทำการ ล็อกอิน เข้าสู่ระบบ bonanza ให้เรียบร้อย เพื่อทำการ ตั้งค่า ปรับแต่ง ข้อมูลส่วนตัวของคุณต่อไป เมื่อเข้ามา ครั้งแรก คุณจะพบ กับ หน้าตา แบบนี้ ให้คุณ กด เมนู Account Setting ที่อยู่ทางด้านซ้าย เพื่อ ทำการตั้งค่าต่างๆ เกี่ยวกับตัวของคุณ ร้านของคุณค่ะ

bo007

ในส่วนของ Account Setting จะประกอบไปด้วย

- Account Info สำหรับ กรอกข้อมูลส่วนตัวของคุณ ที่อยู่ เบอร์

- Seller Settings สำหรับใส่ข้อมูล เกี่ยวกับร้านของคุณว่า ส่งของจากที่ไหน , รับชำระเงินด้วยวิธีใด , ใส่ข้อมูลบัตรเครดิต, ใส่อีเมล์เพื่อรับการแจ้งเตือนต่างๆ

- Notification Preferences สำหรับการตั้งค่าการแจ้งเตือนทางอีเมล์ต่างๆ ที่ทาง bonanza จะส่งให้คุณ

- Other Options กำหนดค่าอื่นๆ เกี่ยวกับทางร้าน

- Cancellation Options หากคุณ จะ ปิดร้าน หรือ ยกเลิกการขาย ให้มาที่ เมนูนี้ได้เลย

bo008bo009bo010bo011bo012

ต่อไป เรา มาตั้งค่า อื่นๆ กันต่อค่ะ ... ที่เมนู ทางด้านซ้าย ให้เลือก My Profile

bo014

เพื่อ ตั้งค่า ประวัติรายละเอียดของเราต่อค่ะ

เมื่อเข้ามาแล้ว จะเจอกับหน้าตา ดังรูปด้านล่าง ให้เรา ไล่ แก้ไข ตั้งแต่ หมายเลข 1 – 5 เลยนะคะ โดย แต่ละ หมายเลขมีรายละเอียดตามนี้

bo013

หมายเลข 1 ให้หารูป แทนตัว มาใส่ค่ะbo020 ขนาดไม่เกี่ยง ถ้า เล็กไป ใหญ่ไป เดี๋ยวระบบ มันก็เตือนเอง

หมายเลข 2

bo021

เมื่อกด EDIT ระบบจะขึ้นช่องให้คุณกรอกเรื่องราวเกี่ยวกับตัวคุณ ให้ กรอกให้เรียบร้อย แล้ว SAVE

หมายเลข 3 bo022ส่วนใหญ่ ตรงกลุ่มนี้ จะเป็นเหมือนกันแนะนำตัวเองค่ะ จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ แล้วแต่คุณ เขาให้คุณกรอกว่า ส่วนใหญ่แล้วคุณชอบซื้ออะไร ในโบนันซ่า ประมาณนั้น

หมายเลข 4 bo023กด EDIT เพื่อแก้ไข ตำแหน่งที่ตั้งของคุณค่ะ อำเภอ จังหวัด

หมายเลข 5   กดที่ Import some from eBay?bo020ส่วนนี้ ช่วยให้คุณสามารถนำ feedback จาก EBAY เข้ามาแสดงได้ด้วยนะคะ ช่วยได้มากเลย สำหรับใครที่มี ประวัติ feedback อยู่แล้ว ใน EBAY

หรือหากตอนนี้ ยังไม่ใส่ จะมาใส่ทีหลัง ก็ให้กดเข้าโดยตรง มาที่ Feedback ในเมนู MyAccount แล้วเลือก Delete my imported feedback without re-importing นะคะ ก็จะเข้ามาสู่หน้านี้ เช่นเดียวกัน bo024

ศาลิน แนะนำ ให้ คุณ นำเข้า ฟีดแบ็ก เลยนะคะ ตั้งแต่เริ่มสมัคร (ถ้าคุณมีฟีดแบ็กจากอีเบย์อยู่แล้ว) เพราะหากคุณไปนำเข้าทีหลัง หลังจากที่คุณขายของได้ และได้รับฟีดแบ็กใน bonanza แล้ว ... ฟีดแบ็กที่คุณเคยได้จาก bonanza โดยตรง จะถูก แทนทีด้วยฟีดแบ็กจากอีเบย์หมดค่ะ

เมื่อ กด verify บัญชี ebay แล้ว 

bo025

มันจะทำการเชื่อมบัญชี ebay เข้ามาค่ะ ให้ เรา กด I Agree

รอสักครู่ ระบบจะกลับมาที่หน้าเดิม จะเห็นว่า มีบัญชี ebay ของเรา เข้ามา แล้วมีปุ่ม import Feedback ต่อท้ายอยู่ ... กด เลยค่ะ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ^^

bo026

เอาละ เสร็จแล้ว สำหรับ การตั้งค่า บัญชีของคุณในขั้นแรก แค่นี้ ก็ เดินทางมาได้ ครึ่งหนึ่งแล้วค่ะ บทต่อไป ศาลินจะพาไปสู่การตั้งค่า เพื่อการเป็นผู้ขายอย่างเต็มตัวสักที ติดตามอ่านกันต่อไปนะคร้าาาาาา ^^

t36

สาธุ สวัสดี

ศาลิน

สมัครขายของกับ bonanza ตอน 2


บทนี้ จะทำให้คุณก้าว เข้าสู่ ความพร้อมของการเป็นผู้ขาย ใน โบนันซ่า ได้มากขึ้น  เริ่มทำกันต่อเลยดีกว่านะคะ  เพื่อ เป็นผู้ขาย กันอย่างเต็มตัว

ให้ดูที่มุมบนด้านซ้ายค่ะ เอาเม้าท์ไปวางที่คำว่า Sell on Bonanza จะเจอ กับ แท็ปเมนูสไลด์ลงมา ตามภาพ .... ในครั้งแรก ก่อนจะเป็นผู้ขาย จะมี เมนู Start selling in one click ปรากฏอยู่ค่ะ ไม่ต้องลังเล คลิ๊กเข้าไปเลยที่คำนี้


Sell on Bonanza
จะเข้ามาสู่ หน้านี้ค่ะ จะเห็นว่า มี แท็บ อยู่ทั้งหมด 4 แท็บ ด้วยกัน ซึ่งแท็บ ต่างๆ เหล่านี้ เราสามารถเข้ามาได้ภายหลัง ด้วยการ เอาเม้าท์ไปวาง ที่ Sell on Bonanza เหมือนเดิมค่ะ
Add or Edit Items - เป็นหน้าสำหรับ ลงรายการสินค้า ค่ะ เราข้ามไปก่อนนะคะ ไป ทำอย่างอื่นๆ ให้เรียบร้อยก่อน เดี๋ยวค่อยมาลงสินค้ากัน

Add or Edit Items
Advertise Items – สำหรับ ลง โฆษณาสินค้าภายในร้านของคุณค่ะ ... เสียเงิน นะ ขอบอก .. ถ้าไม่พร้อมก็ข้ามไป..
Advertise Items


Update Items as Group – สำหรับแก้ไข เปลี่ยนแปลง รายการสินค้า ทีละ หลายๆรายการ เดี๋ยวเราได้ใช้แน่ๆ ค่ะ ตอนนี้ ข้ามไปก่อน

Edit Booth Options – อ๊ะ ..ส่วนนี้แหละ สำคัญสุดในตอนนี้ ข้ามไม่ได้จ้า ... ให้คุณ ไล่ ใส่รายละเอียด ให้ครบๆ ทุกๆ แท็บย่อย เลยนะคะ ซึ่ง ประกอบไปด้วย
ส่วนของ Edit Booth Options ประกอบไปด้วย

  • Basic Settings ตั้งค่า พื้นฐาน ตั้งชื่อร้าน ใส่ข้อมูลของร้านค่ะ
  • Booth Appearance ส่วนนี้ ให้เราดูเฉยๆ ค่ะ ว่า หน้าตาหน้าร้านเราเป็นแบบนี้นะ
  • Payments&Purchases ตั้งค่า เกี่ยวกับการรับการจ่ายเงินจากลูกค้า
  • Discounts&Coupons ส่วนนี้ สำหรับ ทำโปรโมชั่น ทำคูปองส่วนลดให้ลูกค้าและ ตั้งค่าลดค่าขนส่งให้ลูกค้า กรณี ลูกค้าซื้อหลายๆ ชิ้น ใน ออเดอร์เดียวกัน
  • Shipping&Returns ชี้แจงเงื่อนไขต่างๆ เกี่ยวกับการ ส่งของ และ การรับคืนสินค้าค่ะ
  • Categories&Sorting ตั้งหมวดหมู่สินค้า ภายในร้านของเราเอง

Basic Settings กรอกข้อมูลอีกแล้ว อิอิ กรอกไปค่ะ อย่าบ่น ... เสร็จแล้วกด save


Basic Settings

Payments&Purchases ใส่ไปตามภาพเลยนะคะ ง่ายดี

Payments&Purchases


 Discounts&Coupons ส่วนนี้ สำคัญค่ะ

- Item price discount หมายถึง ถ้าลูกค้าซื้อครบ กี่เหรียญ แล้วเราจะลด กี่เปอร์เซ็นต์ (ใส่หรือ ไม่ใส่ก็ได้)
- Combined shipping discount เป็นการ ลดค่าขนส่งให้ลูกค้าในกรณีลูกค้าซื้อหลายๆชิ้นค่ะ

- Combine the weight of items from the same order together when calculating shipping costs. คือการ เอาสินค้าทุกชิ้นมารวมกัน แล้ว แจ้งลูกค้าภายหลังว่า เราจะลดค่าขนส่งให้เท่าไหร่ค่ะ

- Offer a discount for each item after the first when calculating shipping costs. แบบนี้ คำนวณให้อัตโนมัติ ตามที่เราตั้งค่าเอาไว้เลย มีสองแบบให้เลือก
o add an amount ก็จะหมายถึง
ค่าขนส่ง = ค่าขนส่งชิ้นที่มากที่สุด+ (ราคาที่เราใส่ในช่อง x จำนวนสินค้าที่เหลือ)

o Subtract an amount คือ การคิดค่าขนส่งแบบ นำค่าขนส่งทุกชิ้นมารวมกัน แล้ว ลดราคา ไป ตาม ตัวเลข ที่เรา ใส่ไว้ในช่องสี่เหลี่ยมค่ะ
อยากได้แบบไหน ก็ ตั้งค่ากันเองนะคะ

- Coupons จะทำหรือไม่ทำก็ได้นะคะ เป็น การส่งเสริมการขาย อย่างหนึ่งค่ะ ถ้าทำ ก็เพียงแค่ ให้คุณใส่ รหัส ตั้งรหัส ที่ง่ายๆ ลงใน ช่องแรกค่ะ แล้ว ก็ ใส่ ส่วนลดไปว่า จะลดกี่เปอร์เซ็นต์ การใช้งาน ก็ เพียงนำ code coupons นี้ แจ้ง ให้กับลูกค้า ไว้ที่ หน้าร้าน หรือ จะแจ้งไว้ใน รายละเอียดสินค้า เวลาลงประกาศก็ได้ ค่ะ
- Freebie policy ของแถมค่ะ ... ถ้ามีของแถม ก็ ตั้งค่าไว้ค่ะ ถ้าไม่มี ก็ เลือก ข้อแรกเลย


Discounts&Coupons
ต่อไป มาดู แท็บ Shipping&Returns ค่ะ... ใส่ รายละเอียดต่างๆ ลงไปนะคะ ชี้แจงให้ละเอียดว่า คุณจะส่งของได้ภายในกี่วัน และ ส่งทางไหน ถ้าของเสียหาย คุณจะรับคืนสินค้าภายในกี่วัน ประมาณนี้ค่ะ
Shipping&Returns
Categories&Sorting สุดท้ายแล้ว สุดท้ายแล้ว ... เย้ เย้ เย้....
ตั้ง หมวดหมู่สินค้า ให้กับร้านของคุณกันค่ะ...ทำตามภาพเลยนะคะ ... ^^
Categories&Sorting
เฮ้อ...เสร็จสักที กว่าจะถึงขั้นตอนลง รายการขายสินค้า เล่นเอาศาลิน ปวดต้นคอไปหมดเลยค่ะ ฮือๆๆๆ @-@ วันนี้ ศาลินขอ พักผ่อนก่อนแล้วกันนะคะ ไม่ไหวแล้ว หิวด้วย อิอิ เอาไว้พรุ่งนี้ ศาลิน จะมา ทำให้ดูกันต่อค่ะ ว่า ที่ bonanza เขาลงรายการสินค้ายังไง และ มีอะไร เป็นไม้เด็ดของที่นี่ ....

อยากรู้ต้องติดตามค่ะ บาย...

สาธุ สวัสดี
ศาลิน